วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

การดูแลสุขภาพ แนวธรรมชาติบำบัด


ลด
·  อาหารหวานทุกชนิด รวมทั้งผลไม้หวาน
·  เหล้า/เบียร์/ไวน์ แอลกอฮอล์ทุกชนิด
·  นมวัว และโปรตีนจากเนื้อสัตว์
·  เนยเทียม รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากเนยเทียม
·  อาหารที่ทอดโดยใช้น้ำมันซ้ำๆ

เพิ่ม
·  ขิงอ่อนขมิ้นขาวหอมแดงกระเทียม
·  หน่อไม้ฝรั่ง
·  พริก
·  น้ำมะนาว อย่างน้อย 1 ผล (ผสมน้ำ 1 แก้ว ดื่มทันที)

 หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าสาเหตุของการเจ็บป่วยที่เป็นทุกข์และน่ารำคาญนั้นมาจากโภชนาการผิดๆ เสียส่วนใหญ่ โรคที่คุกคามชีวิตมนุษย์ ทำให้ทนทุกข์ทรมานรำคาญสารพัด ส่วนใหญ่ไม่ใช่โรคที่เกิดจากเชื้อโรคแต่เกิดจากความบกพร่องหรือเสื่อมของการทำงานของระบบอวัยวะใดๆ อวัยวะหนึ่งหรือหลายๆ อวัยวะร่วมกับอันเกิดจากการบริโภคอาหารผิดๆ ดำรงชีวิตผิดๆ เป็นผลทำให้
1. ได้สารอาหารไม่พอเพียงที่จะซ่อมแซมร่างกายตัวเอง ซึ่งกรณีนี้หลายคนคิดว่าตัวเองกินดีแล้ว กินแต่ของดีๆ ทั้งนั้น หมู เห็ด เป็ด ไก่ เนื้อ นม ไข่ หารู้ไม่ว่าอาหารเหล่านี้สามารถเป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ ได้มากมาย เด็กอ้วนจ้ำม่ำบางคนดูน่ารักและน่าจะแข็งแรง แต่กลับป่วยทุกเดือน เป็นเพราะเด็กกินหวานและไขมันมากไป และขาดโปรตีนดีๆ หรือวิตามินบางอย่าง ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายทำงานไม่ดี เด็กอ้วนที่ป่วยบ่อยๆ ก็คือ ได้อาหารบางอย่างมากเกินไป บางอย่างน้อยเกินไป
2. ได้รับสารพิษต่างๆ เข้าร่างกายมากเกินไปจนเกิดอันตราย คนเราโดยทั่วไปมักได้สารพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกายมากที่สุดทางปากของตัวเอง (กินเข้าไป) เช่น สารแต่งสี แต่งกลิ่น แต่งรส สารกันบูด (ฟอร์มาลีนคลอรีน) สารกันเชื้อรา,ยาฆ่าแมลงยาฆ่าวัชพืชตกค้าง ฯลฯ โรคดังต่อไปนี้เป็นโรคที่ปัจจุบันในต่างประเทศให้ความเชื่อถือว่าน่าจะเกิดจากโภชนาการผิดๆ เป็นตัวหลักใหญ่ เช่น
2.1 มะเร็งต่างๆ เช่น
มะเร็งหลอดอาหาร  น่าจะมีสาเหตุจาก เหล้า
มะเร็งปอด  น่าจะมีสาเหตุจาก บุหรี่
มะเร็งลำไส้ใหญ่  น่าจะมีสาเหตุจาก เนื้อสัตว์
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ  น่าจะมีสาเหตุจาก สีผสมอาหาร
มะเร็งกระเพาะอาหาร  น่าจะมีสาเหตุจาก อาหารหมักดอง
2.2 โรคที่เกี่ยวกับภูมิต้านทานร่างกายผิดปกติ ในกลุ่มโรคภูมิแพ้หรือแพ้ภูมิตัวเอง เช่น ผื่นคันผิวหนังลมพิษคัดจมูกน้ำมูกไหลไอจามท้องผูกท้องเสียข้ออักเสบรูมาตอยด์โรคพุ่มพวง โรคกลุ่มนี้ทั้งหมดมีผลมาจากการบริโภคอาหารดังต่อไปนี้มากเกินไป เช่น หวานๆ , เนื้อนมไข่เนยเทียมน้ำมันทอดซ้ำๆ ฯลฯ
2.3 โรคที่เกิดจากความเสื่อม (ตามความเข้าใจปัจจุบัน) เช่น ความดันโลหิตสูงไขมันสูงเบาหวานข้อเสื่อมสมองเสื่อมเส้นเลือดหัวใจตีบอัมพาต ฯลฯ ล้วนเป็นโรคที่เกิดจากการบริโภคหวานๆ , เนื้อนมไข่เนยเทียมน้ำมันทอดซ้ำๆ



เรื่องเกี่ยวกับนม
จากหนังสือ "The Cancer Prevention Diet" โดย มิชิโอะ คูชิ ปี 1993 หน้า 113 ในหัวข้อเรื่อง "มะเร็งเต้านม" อย่าลืมว่า เต้านมเป็นเนื้อเยื่อไขมันที่ถูกควบคุมด้วยฮอร์โมนเพศหญิง ดังนั้น ไขมันที่เรากินเข้าไปฮอร์โมนเพศหญิงที่เรากินเข้าไป ย่อมมีผลโดยตรงต่อเต้านม ในหนังสือเล่มนี้บอกว่า สาเหตุของมะเร็งเต้านมสัมพันธ์กับการกินนมวัวเนยแข็ง และผลิตภัณฑ์ของนมวัวอื่นๆไข่เนื้อสัตว์ต่างๆไขมันน้ำมันอาหารมันๆ อย่าลืมว่า วัวตัวเมียเท่านั้นที่มีนม เพราะฉะนั้น น้ำนมวัวน่าจะเต็มไปด้วยไขมันและฮอร์โมนเพศเมีย ผู้หญิงที่ทานนมเป็นประจำรับไปเต็มๆ ได้ทั้งไขมันสัตว์และฮอร์โมนสัตว์ กระตุ้นเต้านมสุดๆ อาจทำให้เกิดเนื้องอกได้
อันนี้แม้จะยังไม่มีงานวิจัยออกมาอย่างชัดเจน แต่ลองรับฟังความคิดเห็นแบบสามัญสำนึกดูนะครับ ในน้ำนมวัวมี Growth Hormone (ฮอร์โมนกระตุ้นการเจริญเติบโตของวัว) อยู่ในนั้น การที่เราให้เด็กกินฮอร์โมนนี้อยู่ตลอดเวลา ย่อมทำให้ร่างกายเด็กถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่างกายสูงใหญ่มากกว่าพันธุกรรมเดิม อย่าลืมว่า เมื่อวัวโตเต็มที่น้ำหนักของวัวอย่างน้อย 500 กิโลกรัมขึ้นไป เพราะร่างกายของเด็กจะถูกกระตุ้นให้สูงใหญ่จากฮอร์โมนสัตว์ ไม่ใช่จากนมวัวมีแคลเซี่ยมเยอะตามที่เข้าใจกัน



เรื่องเกี่ยวกับหวาน
จากหนังสือ NUTRITION SCIENCE NEWS เดือนมีนาคม ปี 2001 รายงานไว้ว่า การบริโภคหวานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ หลายปี เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดโรคกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า "กลุ่มอาการ X" กลุ่มอาการ X (syndrome X) ประกอบไปด้วยโรค
     1. เบาหวาน
     2. ความดันโลหิตสูง
     3. เส้นเลือดหัวใจตีบ
โรคที่ 4 คือ อัมพาตเข้าไปด้วย เพราะถ้าความดันโลหิตสูงมากๆ ทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ก็ทำให้คนไข้เป็นอัมพาตได้ ถ้าเส้นเลือดในสมองตีบเหมือนเส้นเลือดหัวใจ ก็ทำให้เป็นอัมพาตได้เหมือนกัน
อาการโรคสัมพันธ์กับการกินหวานอย่างไร เช่น ลดน้ำหนักยากเอวใหญ่กว่าสะโพกตัวบวมๆ ฉุๆ หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่า หวานๆ ที่ทานเข้าไปในร่างกายส่วนเกินจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันไตรกลีเซอไรด์ ไขมันนี้ก็จะพอกอยู่บริเวณหน้าท้องต้นแขนต้นขาสะโพก ทำให้เกิดเนื้อเยื่อไขมันที่หลายคนชอบเรียกให้เท่ๆ ว่า CELLULITE (เซลลูไลท์) นี่คือเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมกินแต่ผลไม้และน้ำผลไม้ที่เคยคิดว่ามีประโยชน์เยอะ ทำไมไม่ยอมผอมเสียทีมีแต่อ้วนขึ้นเรื่อยๆ
มีสิวรอบปากอยู่เรื่อยๆ อันนี้เรื่องหวานโดยตรง ไม่จำกัดอายุ แต่จะมีให้เห็นชัดเจน ช่วงอายุ 30-40 ปี ถ้าเกิดสิวรอบปากอันนี้ แน่นอน 2-3 วันก่อนหน้า คุณได้กินหวานเยอะๆ
เป็นเชื้อราบ่อยๆ เช่น เป็นขี้กลากไม่หายซักที หรือเป็นๆ หายๆ อยู่เรื่อยๆ การกินหวานทำให้ร่างกายเป็นกรด เมื่อบริเวณผิวหนังเป็นกรดซึ่งง่ายต่อการเป็นเชื้อรา
จากหนังสือ "BEATING CANCER WITH NUTRITION" ปี 1998 โดย PATRICK QUILLIN, Ph.D.,R.D.,C.N.S. มีข้อความน่าตกใจว่า "SUGAR FEEDS CANCER" แปลว่า "น้ำตาลเลี้ยงมะเร็ง" และจากรายงานของ GORDON RESEARCH INSTITUTE USA. พบว่า เซลล์มะเร็งมี GLUCOSE RECEPTOR (จุดสำหรับดูดซึมน้ำตาลเข้าเซลล์) มากกว่าเซลล์ปกติถึง 24 เท่า แสดงให้เห็นว่าเซลล์มะเร็งสามารถดูดซึมน้ำตาลได้เร็วมากและจำนวนมาก เพราะฉะนั้นคนไข้มะเร็งที่กินหวานเท่ากับส่งเสบียงให้เซลล์มะเร็งโดยตรง เซลล์มะเร็งจะโตเร็วมากลามเร็วมาก และทำให้ตายไวขึ้น

โดย นพ.เปี่ยมโชค ชลิดาพงศ์

"ความเจ็บป่วยเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณต้องเปลี่ยนแปลง
"ILLNESS IS A SIGNAL TO CHANGE" โดย Sidney M. Baker M.D


"พบกับ Blog รูปโฉมใหม่ของบ้านสุขภาพเขาใหญ่และบ้านสุขภาพปทุมธานี 
ได้ที่ http://บ้านสุขภาพล้างพิษตับ.blogspot.com/"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น